2021-09-04

“โดนัท มนัสนันท์” สาวพลังงานบวก เต็มที่กับทุกบทบาทในชีวิต แม้เผชิญโรค SLE กว่า 5 ปี

By Abdul

เป็นอีกหนึ่งนางเอกสาวที่ผันตัวเป็นผู้จัดละครรุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองมาก สำหรับสาวเก่ง โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล สาวสวยมากความสามารถที่คร่ำหวอดและเติบโตในวงการบันเทิงมาเป็นเวลานาน จนตอนนี้เธอก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดละครทุ่มเทให้กับผลงานทุกชิ้นแบบเต็มที่ อย่างล่าสุดก็ปล่อยละครฟีลกู้ด โรแมนติกคอมมาดี้มาให้แฟนๆ ได้ชมกันในเรื่อง “พฤษภา-ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน” ทางช่อง 3 ออนแอร์เพียงไม่กี่ตอนเรตติ้งก็พุ่งกระฉูดสมความทั้งใจของผู้จัด นักแสดง และทีมงาน

งานนี้ เลยไม่พลาดที่จะพาตัวผู้จัดคนเก่งมานั่งพูดคุยกันถึงผลงานชิ้นนี้ การทำงานในฐานะผู้จัด และสิ่งสำคัญอย่างเรื่องสุขภาพที่เจ้าตัวต้องเผชิญกับโรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองมากว่า 5 ปี ว่าเป็นยังไงบ้าง

ชื่อเรื่องสะดุดหูมากได้ชื่อนี้มายังไง?

“เริ่มต้นจะชื่อแค่ รักแท้แค่เกิดก่อน แต่เรารู้สึกว่ายังขาดอะไรไป แล้วเราไปเจอแสลงของฝรั่งเกี่ยวกับความรักต่างวัยเขาจะเรียก May-December romance เราก็เลยหยิบตรงนี้มาแปลเป็นภาษาไทย ตอนแรกคนก็เอ๊ะ ชื่อพระเอก นางเอกหรือเปล่า ไม่ใช่ เป็นกิมมิคว่ารักต่างวัยก็เหมือน พฤษาคม กับ ธันวาคม เดือนมันห่างกันแต่เราก็ยังอยู่ในปีเดียวกันนะ”

“พล็อตเรื่องจะเป็นเรื่องของ “อร” ที่เขารักกับ “ดนัย” รักกันมา 30 ปี ได้แต่งงานกัน วันนึงดนัยมาบอกว่าไม่รักเธอแล้วนะ ทีนี้อรก็ อ้าว ทำไมล่ะ เพราะฉันแก่ใช่มั้ย ผู้ชายบอกว่า ใช่ แล้วผู้ชายก็ทิ้งไป ทำให้อร รู้สึกว่าเขาเกลียดตัวตนเขาตอนนี้ เลยไปทำศัลยกรรม ในเมื่อผู้ชายชอบเด็กๆ ใช่มั้ย ฉันจะทำตัวให้เด็กกว่าเดิมเธอจะได้กลับมารักฉัน แต่พอไปทำมาแล้ว ดันไปเจอ “ตั้ม” ที่เด็กกว่า เลยเป็นที่มาของเรื่องราวต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น”

“จะเป็นเรื่องราวของคู่ผัวเมียที่อยู่กันมานานๆ ไปกันไม่รอดสักที เหมือนมันไม่ใช่คนที่ใช่ แล้วพอวันนึงได้มาเจอเด็กที่รู้สึกว่าเด็กมันดี เด็กมันรักนะ ในขณะที่เด็กก็ไม่รู้ พอตอนหลังเด็กมารู้ความจริงแต่ก็รักไปแล้ว วัยหรืออายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องนี้นอกจากจะโรแมนติกคอมมาดี้แล้ว ก็มีความดราม่าเหมือนกันเช่นเรื่องการตัดสินคนจากภายนอก เรื่องของความรัก เหตุผลที่เลิกรากัน มันก็ไม่ได้มีคนใดคนนึงผิดเลยซะทีเดียว ทุกอย่างก็มีเหตุผลค่ะ”

เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากการเข้าโรงพยาบาลเพราะอาการป่วยของเราจริงไหม?

“ใช่ค่ะ ตอนคิดพล็อตเรื่องนี้ เป็นช่วงที่โดนัทเข้า ออก โรงพยาบาลตลอด พอนั่งในโรงพยาบาล เราก็จะได้เห็นชีวิตคน มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย คือ ชีวิตคนเรามันก็มีเท่านี้แหละ และเราต้องการอะไรมากที่สุดล่ะ เราต้องการความรัก ต้องการมีความสุข เราเลยดึงเรื่องพวกนี้มาเล่า แต่เราอยากทำโรแมนติกคอมมาดี้ ก็เลยต้องเล่าเรื่องพวกนี้ในมุมสนุก ก็มองไปต่อว่าสังคมไทยตอนนี้เป็นยังไง แล้วพบว่าสังคมไทยตอนนี้เป็นสังคมผู้สูงอายุ บางทีผู้สูงอายุก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ถูกละเลย เราก็ดึงประเด็นนี้มาเล่นด้วย

แยม-โดนัท-ชาคริต

ก็กลายเป็นโรแมนติกคอมมาดี้ที่เล่าเรื่องหมอ มีแอคชั่น แฟนตาซี กีฬา ดราม่า เยอะและครบมาก สัคมเราตอนนี้มีอะไร ในเรื่องมีหมด (หัวเราะ) ตอนที่ทำพล๊อตก็พยายามหยิบจับอะไรที่เกิดขึ้นในสังคมมาสอดแทรกไว้ อย่างเคสหมอในเรื่องทุกเคสมาจากเรื่องจริงทั้งหมดด้วยค่ะ”

นอกจากเป็นผู้จัดยังต้องรับบทพี่ว๊ากด้วย?

“ก็มีบางวันที่ต้องรับบทพี่ว๊ากด้วยเพราะว่านักแสดงของเราหลายคนค่อนข้างใหม่ อย่างน้องริวก็เป็นเรื่องแรกเลยที่ได้ร่วมงานกับเรา แต่รับรองว่าใครดูก็ต้องโดนน้องริวตกแน่นอน (หัวเราะ) ร้อยทั้งร้อยต้องแพ้ความน่าเอ็นดูค่ะ อยากบอกว่าฟินทุกคู่แน่นอน พูดจริงๆ ว่าต้องดู สนุกมาก เป็นละครตลกเบาสมอง เป็นตัวเลือกนึงในช่วงที่เราเจอแต่เรื่องเครียดๆ”

มีต่างประเทศซื้อไปออนแอร์พร้อมไทยด้วย?

“ใช่ค่ะ ต่างประเทศที่ฉายพร้อมเมืองไทยก็มีอินโดนีเซียและมาเลเซียค่ะ”

เป็นยังไงบ้างชีวิตผู้จัดละคร ปรับตัวได้หรือยัง?

“โอ้โห! จากเรื่องแรกมาถึงเรื่องนี้รู้เลยว่าคนเรามันต้องผ่านอุปสรรคในชีวิต เพราะเรื่องนี้ทำงานง่ายมาก นี่พูดแล้วขำตัวเองนะ เรื่องแรกปัญหาเยอะ เครียด กังวล เรื่องนี้เครียดน้อยลงมาก ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ เราผ่านทั้งโควิด ทั้งอะไรมา เราร่วมมือกันแบบที่สุดจริงๆ พอเห็นผลงานออกมาก็หายเหนื่อย เมื่อก่อนเราอาจจะมองปัญหาที่เข้ามาเป็นเรื่องใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้เวลามีอะไรเราก็มองแค่ว่า โอเคมีปัญหาก็ค่อยๆ แก้ไป ก็เลยสนุกขึ้น”

ผู้จัดโดนัทยังขึ้นชื่อเรื่องดุเหมือนเดิมมั้ย?

“อันนี้ต้องลองถามเด็กๆ ว่าดุมั้ย แต่ถ้าถามโดนัทเองมันก็มีบางวันแหละ (หัวเราะ) เราก็บอกว่าวันนี้รับบทพี่ว๊ากเพราะในกองเด็กอยู่ด้วยกันเยอะจะมีงอแงบ้าง จริงๆ เราไม่ใช่คนดุ โหดร้ายอะไรขนาดนั้นแต่เราจริงจังกับการทำงาน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้มันไม่จริงจัง (หัวเราะ) เพราะว่าเราก็อยากให้งานออกมาดี เราก็จะบอกนักแสดงว่าหนักหน่อยนะ แต่พองานออกมาทุกคนก็แฮปปี้”

โดนัทกับหน้าที่ผู้จัด

อาการป่วย SLE ที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ส่งผลต่อการทำงานมั้ย?

“โดนัทเป็นคนที่เวลาป่วยแล้วไม่ได้บอกใครสักเท่าไหร่ ถ้าเป็นคนใกล้ชิดก็จะรู้ อย่างตอนทำละครเรื่องนี้ โดนัทถ่ายละครอีกเรื่องอยู่ด้วย บางวันก็มีบ้างที่ไปกองถ่ายตัวเองไม่ไหว ก็ต้องมีการออนไลน์กัน มอนิเตอร์กับทีมแบบออนไลน์กันไป งานเราก็ต้องทำอ่ะเนอะ แต่ร่างก่ยเราก็ต้องรักษา โดนัทก็ไม่รู้ว่าเราจะทุกข์ไปทำไม โดนัทไม่ได้บอกว่าตัวเองไม่มีความทุกข์เลยนะ ตอนเราไม่สบายเราก็ทุกข์เพราะเราทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม มันทุกข์มากนะ แต่ว่าเราต้องยอมรับว่าเราป่วยไปแล้วเราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้”

“อาการป่วยตอนนี้ก็คงที่ค่ะ ทางการแพทย์เรียกว่าโรคสงบ มีเรื่องค่าเม็ดเลือดขาวขึ้นๆ ลงๆ บ้างเป็นเรื่องที่หมอค่อนข้างกังวล ซึ่งอะไรเหล่านี้ก็จะมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด จริงๆ ตั้งแต่ป่วยทำให้เครียดน้อยลง เพราะเราจะพยายามไม่เครียดในทุกๆ เรื่อง เราไม่อยากให้ความเครียดส่งผลกับอาการ ก็เลยทำให้เราชีลล์ขึ้นในการทำอะไรหลายๆ อย่าง ทุกวันนี้ก็ต้องหลีกเลี่ยงการพักผ่อนน้อย ความเครียดซึ่งขัดกับงานที่ทำมาก แต่ก็นั่นแหละถ้าไม่ให้โดนัททำงาน โดนัทก็ไม่มีความสุขไง”

อาการป่วยเคพีคสุดถึงขัันไหน?

“ไม่เคยถึงกับนอนโรงพยาบาลนะคะ แต่ว่ามีช่วงที่เหมือนเอาภูมิไม่อยู่เพราะเราไม่ได้รักษาด้วยการใช้สเตียรอยด์ ก็เลยจะมีการปรับการรักษา ปรับการใช้ยาหลายๆ อย่าง จนคุณหมอบอกว่าถ้าปรับแล้วไม่ดีขึ้นต้องยอมใช้แล้วนะ พอหมอบอกแบบนั้นก็ดีขึ้นเลย (หัวเราะ) งงมาก ดีขึ้นเฉยเลย เราก็ลองหลายวิธีค่ะ ใช้ยาหลายตัว แต่โดนัทว่าเรื่องสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยจริงๆ เราไม่ใช่คนที่บ้าคลั่งทำอะไรบางอย่างจนไม่ปล่อยให้ร่างกายพักอยู่แล้ว โชคดีที่เรายังจัดสรรเวลาได้”

อยู่กับ SLE มากี่ปีแล้ว?

” 5 ปีแล้วค่ะ อยู่กันนานจนเลิกนับแล้ว แต่ก็ยังทานยา ยังไม่สามารถหยุดยาได้ ซึ่งอาการดีขึ้นกว่าช่วงแรกเยอะมากค่ะ เราก็รู้ว่าร่างกายเราเป็นยังไง มีบางช่วงเหมือนกันที่ทำงานไม่ได้ จริงๆ หมอไม่ให้ออกแดดเยอะ เมื่อก่อนเจอแดดนิดนึงโดนัทอาจจะต้องนอนไปเลย 5 วัน แต่เดี๋ยวนี้ก็คือไม่ได้แย่ขนาดนั้นแล้ว ออกแดดก็อาจจะพักสักวันนึงก็โอเคขึ้น”

โดนัท มนัสนันท์

ช่วงแรกที่รู้ว่าเราเป็นโรคนี้เราปรับจิตใจที่จะอยู่ร่วมกับอาการยังไง?

“ตอนรู้แน่ชัดว่าเป็นอะไร เราไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงจริงๆ เพราะเราไม่มีแรง เวลาคนที่ทำอะไรตลอดเวลาแล้วมันทำไม่ได้ ต้องนอนตลอดเวลา ก็ลำบากนะ หงุดหงิดมาก ทุกวันนี้เวลาอาการกำเริบเราก็จะต้องรีบพัก ก็รู้ตัว ตั้งแต่เป็นมาก็เหมือนทำให้เราปลงๆ บ้าง มีอะไรก็แก้ไปทีละอย่าง ส่วนร่างกายเขาก็มีการรักษาเยียวยาตัวเองอยู่แล้ว

ถามว่าปรับใจ ปรับความรู้สึกยังไงที่ต้องอยู่กับอาการป่วยนี้ตลอดชีวิตก็ไม่ได้เป็นอะไรนะ เพราะเราก็ป่วยไปแล้ว หมอก็บอกว่ารักษาไปตามอาการ เป็นอะไรเราก็รักษากันไป เราค่อนข้างคิดบวกกับการป่วยของเรามากๆ โดนัทอาจจะโชคดีที่เราเจอในกระแสเลือดนั่นหมายถึงโรคสามารถไปได้ทุกส่วนของร่างกาย หมอเลยกำชับให้ดูแลตัวเองตลอดทุกระบบของร่างกาย เพราะฉะนั้นทำให้เรายิ่งระวังตัวเองมากขึ้น”

เรียกว่าสุขภาพจิตสำคัญมาก?

“ค่ะ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่เราทำได้ กินยาแทบตายแต่ถ้าเรามัวแต่คิดว่าเราจะไม่รอดๆ มันก็ไม่ไหวเนาะ แม้ว่ายาจะแพงมากก็ตาม (หัวเราะ) เราก็ต้องใช้ชีวิต ทำงาน ทำหน้าที่ของเราต่อ สำหรับโดนัทก็ให้ความสำคัญทั้งสุขภาพและงานควบคู่กัน ถ้าเรายังไหว และยังมีความสุขกับงานที่ทำมันก็โอเค”

คำถามที่เราตั้งไว้ในละครว่าจริงๆ ชีวิตคนเราต้องการอะไร ถ้าเป็นโดนัทล่ะ ชีวิตเราต้องการอะไรบ้าง?

“สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็เป็นความรักจากครอบครัวค่ะ ความรักตรงนี้จะทำให้เราผ่านทุกอย่างไปได้ ซึ่งตัวโดนัทเองโชคดีมากๆ ที่มีครอบครัวที่ดีเข้าใจและสนับสนุนทุกอย่างเลย กำลังใจของโดนัทก็ได้มาจากครอบครัวค่ะ”

มาถึงครอบครัวของเราเองบ้างดีกว่า หลังแต่งงานเป็นยังไงบ้าง?

“ดีค่ะ แฮปปี้ มีน้องหมาสมาชิกใหม่มาเพิ่มความสดใส หลังแต่งงานก็เหมือนเรามีคนดูแล แต่เราไม่ได้แพลนอะไรกันมากมาย สามีเขาไม่ได้ห่วงหรือเข้มงวดอะไรมากมาย อาจจะมีห่วงเรื่องการใช้ชีวิตในแต่ละวันบ้าง เช่น ไปทำงานกี่โมง กลับกี่โมง ใครไปส่งอะไรแบบนั้น แต่ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลย ส่วนเรื่องลูก โดนัทยังมองว่าเรื่องโรคตอนนี้ยังน่าเป็นห่วง เอาไว้ก่อนดีกว่า พักไว้ก่อน”

โดนัท-สามี

เรื่องสุขภาพมีผลกับการมีลูกมั้ย?

“ไม่ค่ะ ตั้งแต่แต่งงานก็ปรับยาบางตัวไว้แล้วเผื่อว่าอยากมี แต่ยังไม่น่าจะเร็วๆ นี้ เราก็รู้สึกว่าเรามีกันสองคน มีหมา เราก็แฮปปี้แล้วค่ะ”

สุดท้ายฝากผลงานชิ้นล่าสุดของเราหน่อย?

“ก็ฝากละครเรื่อง พฤษภา-ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน ไว้ด้วยนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้โดนัท น้องๆ นักแสดง ทีมงานทุกคนด้วยและรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ”