2023-01-31

เกิดอะไรขึ้น? ไปซื้อข้าวแค่ 25 นาที กลับบ้านช็อก เมียบีบคอลูก 3 คน ก่อนโดดหน้าต่าง

By Abdul

สามีออกไปซื้อข้าว 25 นาที กลับบ้านเจอภาพช็อก ลูก 3 คนนอนหมดสติ พบเมียบีบคอเด็กๆ ก่อนกระโดดหน้าต่างหวังตายตาม

สามีของ “ลินด์เซย์ แคลนซี” คุณแม่ชาวแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่าบีบคอลูกเล็กๆ ทั้งสามของเธอ ก่อนที่จะพยายามปลิดชีวิตตัวเอง ได้ร้องขอให้ผู้คนให้อภัยเธอในคดีอาชญากรรมที่เลวร้าย

“ความจริงลินด์ซีย์มีความรักและห่วงใยทุกคนอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทั้งผม ลูกๆ ครอบครัว เพื่อน และคนไข้ของเธอ เส้นใยแห่งวิญญาณของเธอมีความรัก สิ่งที่ผมต้องการสำหรับเธอตอนนี้คือขอให้เธอพบกับความสงบสุข… ผมอยากถามพวกคุณทุกคนว่าลึกๆ แล้วคุณรู้สึกว่าตัวเองให้อภัยลินด์เซย์เหมือนที่ผมให้อภัยเธอ” แพทริก แคลนซี เขียนในการอัปเดตเกี่ยวกับงานระดมทุนออนไลน์เพื่อหาค่ารักษาพยาบาลให้ภรรยา

คำพูดที่สะเทือนใจของสามีและพ่อผู้ใจสลาย เกิดขึ้นหลังจากลินด์เซย์ วัย 32 ปี ถูกตั้งข้อหาเมื่อวันที่ 19 มกราคม ในข้อหาฆาตกรรม คอร่า ลูกสาววัย 5 ขวบ, ดอว์สัน ลูกชายวัย 3 ขวบ และพยายามฆ่า คัลลัน ลูกชายวัย 8 เดือน

คาร่า และ ดอว์สัน เสียชีวิตที่โรงพยาบาล แม้ว่าแพทย์ชันสูตรจะยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ แต่จากบาดแผลบนตัวเด็กๆ ดูเหมือนจะถูกรัดคอ ในขณะที่ คัลลัน ซึ่งเพิ่งอายุครบ 8 เดือน ถูกนำส่งโรงพยาบาลเด็กบอสตันในสภาพวิกฤต และเสียชีวิตเมื่อในเวลาต่อมา ทำให้คาดว่าผู้เป็นแม่จะถูกตั้งข้อหาเพิ่มขึ้น จากการเสียชีวิตของลูกชายคนเล็ก

มีรายงานว่า ขณะเกิดเหตุ แพทริก ออกจากบ้านเพื่อไปหาซื้ออาหารเพียง 25 นาที แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านกลับพบว่าลูกๆ หมดสติ มีร่องรอยบาดแผลอย่างเห็นได้ชัด และยังพบว่าภรรยากระโดดออกไปทางหน้าต่าง ด้วยความพยายามที่จะฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ 

แพทริก เปิดใจว่า “หลายคนบอกว่านึกภาพไม่ออก และพวกเขาพูดถูก.. ความตกใจและความเจ็บปวดนั้นระทมทุกข์ และไม่สามารถหยุดยั้งได้ ผมมักจะนึกถึงพวกเขา และฝันถึงพวกเขาซ้ำๆ… พ่อแม่ทุกคนรู้ดี เราต่างนึกไม่ออกว่าจะสามารถรักลูก ๆ ของเราได้มากแค่ไหน จนกว่าคุณจะมีพวกเขาจริงๆ เช่นเดียวกับการทำความเข้าใจความหายนะของการสูญเสียพวกเขา”

ทั้งนี้ ตามรายงานยังพบด้วยว่าก่อนเกิดเหตุ ลินด์เซย์ แคลนซี เพิ่งลาออกจากการเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เธอยังเคยเปิดเผยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตของเธอผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ้งเป็นเวลาหกสัปดาห์หลังจากคลอดลูกชายคนสุดท้อง จึงคาดว่าเธออาจเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression)

แพทริคเขียนว่า “ผมภูมิใจมากที่ได้เป็นสามีของเธอ พอๆ กับที่ผมได้เป็นพ่อคน และรู้สึกโชคดีเสมอที่มีเธออยู่ในชีวิต… ผมยังจำช่วงเวลาที่สบตากับเธอครั้งแรกได้ และจำได้ว่าผมเอาชนะรักแรกพบแบบที่คุณเห็นได้ในภาพยนตร์เท่านั้น”

แพทริกกล่าวด้วยว่า ทั้งสองจะเริ่มต้นทุกเช้าด้วยการกอดและจะพูดว่า “ฉันรักคุณ” ให้กันและกัน

“เธอรักการเป็นพยาบาล แต่ไม่มีอะไรเทียบได้กับความรักที่เธอมีต่อลูกๆ ความทุ่มเทในการเป็นแม่ มันคือทั้งหมดที่เธอเคยต้องการ และเพราะความหลงใหลของเธอสอนให้ผมเป็นพ่อที่ดีขึ้นได้อย่างไร”

แพทริก ยังได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยให้กับลูกๆ ของเขา โดยเล่าถึงบุคลิกและนิสัยใจคอที่ทำให้รักพวกเขาอย่างสุดหัวใจ “พ่อไม่รู้ว่าความเจ็บปวดจะหายไปไหม แต่พ่อจะทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นเกียรติแก่พวกหนู ดาด้ารักพวกหนูมาก และจะจดจำพวกหนูตลอดไป”