2022-03-01

“พชร์ อานนท์” ตามข่าวแตงโมพบพิรุธเยอะ ด้าน “แต๊งค์” ฝากตำรวจช่วยสืบหลักฐาน

By Abdul

ทำเอาหลายคนข้องใจกับการสูญเสีย แตงโม นิดา และยังช่วยกันออกมาหาความจริงและปกป้อง รวมไปถึงอดีตคนรู้ใจที่กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต๊งค์ พงศกร และ พชร์ อานนท์ ที่เคยร่วมงานและมีข่าวคราวมากมายกับ แตงโม ได้ออกมาพูดในมุมมองของเรื่องนี้ทุกประเด็นในรายการคุยแซบ Show ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย ดำเนินรายการ

ทราบข่าวได้ยังไง?

แต๊งค์ : “ผมกำลังจะนอน กำลังเอาลูกเข้านอน เมียมาสะกิดมันมีคนทวิตว่าดาราแฟนเก่า แต๊งค์ พงศกร ตกเรือ มีอุบัติเหตุ แตงโมเหรอ ผมก็ตกใจ ไถโทรศัพท์ดูเช็คข่าวทั้งคืน พอยืนยันแล้วว่าเป็นข่าวจริง รีบติดต่อไปที่กระติก เพราะตัวผมเองก็สนิทกับกระติกด้วย รู้จักมาพร้อมแตงโม 10 กว่าปีได้แล้ว โทรไปติดเค้ารับสาย โทรไปตอนเที่ยงคืนตี 1 แล้ว เค้าตอบผมกลับมาว่าเค้ากำลังออกจากท่าเรือ น้ำเสียงเป็นปกตินะ” 

เค้าออกจากท่าเรือ เอ๊ะมั้ยว่าใครจะตามหาแตงโม?

แต๊งค์ : “ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริง ณ ตอนนั้นตกจริงหรือเปล่า พวกนั้นมันตกใจกันไปเองหรือเปล่า น้องอยู่ไหนตอนนั้นไม่มีอะไรในหัวคิดไม่ออกสำหรับผมนะ พอผมได้ยินว่ากูออกจากท่าเรือแล้วเดี๋ยวกูโทรหานะ เราไม่รู้ว่าอาจจะเจอแล้ว” 

ด้วยน้ำเสียงเราคิดว่าไม่มีอะไร?

แต๊งค์ : “ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่โต ใช่ครับ เหมือนกับปลอดภัยแล้ว มันมีอะไรจะเล่าให้ฟังประมาณนี้ เราก็รอตั้งใจรอว่าเมื่อไหร่มันจะโทรกลับมา เราก็ติดตามข่าวเรื่อยๆ ก็ยังไม่เจอ” 

ยืนยันไม่มีน้ำเสียงโวยวายหรือตกใจ?

แต๊งค์ : “มีอย่างเดียวคือน้ำเสียงรีบๆ เราก็ตั้งหน้าตั้งตารอไป” 

รู้ข่าวตอนแรกไม่เชื่อ?

พชร์ : “ใช่ๆ ตอนนั้นพี่อยู่ที่เชียงใหม่ มีคนส่งข้อความมาว่าแตงโมตกน้ำที่เจ้าพระยา เราไม่เชื่อไลน์ไปถามผู้จัดการของมดดำว่าจริงหรือเปล่า เค้าบอกว่าจริง เราก็คิดอีกอย่าง เพราะว่าแตงโมเป็นคนขี้เล่นอยู่แล้ว เราคิดว่าเค้าเล่นหรือเปล่า ตอนนั้นยังไม่รู้ยังไม่มีข่าวอะไรมาก คืนวันพฤหัสเราก็ไม่ได้เชื่ออะไร พอตื่นเช้ามาเค้าก็ยังจะออกตามหาที่เป็นข่าวเราก็โทรหากระติก แต่กระติกไม่ได้รับ โทรหา 2 ครั้ง เพราะเราก็อยากรู้ว่าเป็นยังไงบ้าง เจอแตงโมมั้ย ในใจเราคิดว่าขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย แตงโมเป็นคนขี้เล่นสนุกสนานเราก็ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ เราก็คิดไปเรื่อยๆ ขออย่างให้เป็นแบบที่เราคิด อยู่ไหนก็ได้ ขอให้เค้ารอดออกมา เราก็สนิทเคยทำงานด้วยกันก็ภาวนา พอเรารู้ก็ถามแอนนาไปอีกรอบว่าเจอหรือยัง แอนนาบอกยังไม่เจอพี่ รู้สึกว่าจะมาเจอวันเสาร์ตอนบ่าย เท่านั้นเราก็รู้เลย” 

ตามข่าวจนตัวเองก็โกรธ?

แต๊งค์ : “หลังจากกระติกวางสายผมก็ตามข่าว ไถโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ ภรรยาก็ช่วยไถบอกโน่นนี่นั่นไปเรื่อย สุดท้ายมันมาเริ่มผิดสังเกตุจริงๆ ทำให้ใจเราเริ่มแป้วคือตอนที่คุณแม่ของน้องแตงโมมาออกสื่อที่เค้าพูดว่ากระติกไม่ติดต่อเค้าเลย มันผิดปกติละ ถ้าลูกเค้าหายไปจริงๆ คือควรติดต่อครอบครัวก่อน หรือถ้าจะล้อเล่นกันจริงๆ ไม่ควรเล่นแรงกันถึงแม่ พอลูกเค้าหายไปจริงๆ” 

เลยตัดสินใจโพสต์ข้อความบนโซเชียล?

แต๊งค์ : “อันนี้เป็นคืนก่อนวันที่เราจะพบร่างของน้องโม ผมโพสต์ข้อความนี้ ณ ตอนนั้นข่าวออกมาแล้วว่าน้องโมหายมันเป็นคืนที่ 2 ที่มีการค้นหากัน เราจะเห็นในพวกภาพกราฟฟิกต่างๆ ที่เค้าพยายามแสดงให้เราดู มันจะมีชื่อของคน 3 คน แต่ชื่ออีก 2 คน มันผิดกับอุบัติเหตุอื่นที่เค้าจะให้ข้อมูลกันเต็มที่” 

หลังจากโพสต์กระติกติดต่อกลับมา?

แต๊งค์ : “ผมโพสต์ไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง มีการติดต่อมาจากกระติก โทรมาหาผม เริ่มต้นอธิบายทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟังครั้งแรกมันรู้สึกยังไง มันรับไม่ได้มันไม่น่าเชื่อถือ” 

มีตั้งคำถามมั้ย?

แต๊งค์ : “ผมให้เกียรติน้องโมเราไม่อยากจะคิดในแง่ลบในเรื่องที่ไม่ดี ผมไม่อยากจะคิดเลย ผมคิดแต่ว่าทำไมพวกคุณถึงไม่ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือตั้งแต่แรก” 

คุณกระติกขอร้องให้ลบโพสต์

แต๊งค์ : “ใช่ครับ จริงครับ ในการอธิบายของเค้า เค้าจะสอดแทรกไปด้วยคำพูดที่บอกว่า มึงลบเหอะ มึงลบโพสต์นี่ออกเหอะ กูขอร้อง ผมเอะใจ และผมไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมายอมเชื่อ ถ้าเกิดพูดให้ผมเชื่อได้ผมอาจจะยอมลบให้หรือผมถามถึง 2 คนนั้นแล้วยอมบอกชื่อจริง อธิบายว่าเป็นใคร เค้าไม่พูดถึงไม่อธิบาย เค้าบอกปัดตอนแรกว่าเป็นรุ่นน้อง บอกตอนหลังว่าเป็นคนที่รู้จักกันไม่ถึงวัน”

เห็นคำสัมภาษณ์ รู้สึกยังไงบ้าง?

พชร์ : “ตอนแรกที่ทราบข่าวว่าไม่ได้อยู่ดูเรารู้สึกว่าแปลกๆ เป็นเพื่อนกัน กระติกเป็นเพื่อนที่แตงโมรักมาก เคยถามแตงโมว่าทำไมเปลี่ยนผู้จัดการ เค้าบอกคนนี้เพื่อนรักแตงโมมาก ใครว่ากระติกไม่ได้แตงโมจะออกตัวช่วยตลอด เราเคยเจอเค้าไปที่กองถ่าย เรารู้สึกว่าทำไมกระติกไม่ได้รักแตงโมเหมือนที่แตงโมรัก เวลาเค้าพูดเพื่อนเสียไปทั้งคนบนเรือเป็นเราเราไม่ได้อยู่เฉยแล้วต้องหาวิธีช่วย ไม่กลับ เราต้องช่วยให้ถึงที่สุดเพื่อนเราทั้งคน” 

ถ้าวันนั้นพี่พชร์อยู่ตรงนั้นจะกลับบ้านมั้ย?

พชร์ : “ไม่กลับ พี่ไม่กลับอยู่แล้ว ก็ต้องหาให้เจอ ไม่เจอก็ต้องเฝ้าอยู่ตรงนั้นถ้าเป็นพี่นะ พี่รู้สึกว่าทั้งกลุ่มเลยเค้าไม่สมควรไปจากตรงนั้นด้วยซ้ำ ไม่สมควรหนี ต้องชี้ให้ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นบอกพวกนักประดาน้ำ ไม่ใช่หายไปที่อู่ต่อเรือซึ่งมันไม่ได้มันไม่ใช่” 

ไปปัสสาวะท้ายเรือ คิดว่าโมจะกล้าทำสิ่งนั้นมั้ย?

พชร์ : “มันก็ไม่แน่ เราไม่ได้อยู่บนเรือเราอาจจะคิดไปเอง มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่แตงโมไปฉี่ก็ได้ เค้าจอดข้างทางก็ขอขึ้นไปฉี่ตามท่าเรือได้ ในความรู้สึกแตงโมมันไม่น่าเดินไปฉี่ตรงนั้น ชุดมันก็ไม่ได้ถอดง่ายๆ นะ”

แต๊งค์ : “ตัวผมเองในฐานะที่เคยสนิทมาก ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ของโมหลายคนคิดว่า ถามว่าโมกล้าไปฉี่มั้ย โมเป็นคนที่ไม่ใช่คนขี้อายอยู่แล้ว ผมอาจจะมองต่างคนอื่น เค้าไม่อายอยู่แล้ว ถ้าเค้าจะฉี่เค้าบอกเลย บอกทุกคน มันยิ่งสำคัญว่าถ้าคุณจะฉี่แล้วมีผู้ชายอยู่บนเรือยิ่งต้องบอก ถ้าฉี่อยู่ผู้ชายเดินมาทำไงถูกมั้ย คุณต้องบอกเพื่อนพาผู้ชายไปอยู่หน้าเรือก่อน” 

พชร์ : “นักข่าวเค้าอยากให้คุณจ๊อบใส่เสื้อผ้าตัวที่เกิดเหตุ คุณจ๊อบก็ถอด แล้วนักข่าวไปเห็นรอยขีดข่วน รอยช้ำ” 

คุณจ๊อบไปบอกคุณปอ คุณปอก็เดินมาบอกให้นักข่าวลบรูปตรงนั้น เคยบอกว่าผมจะบวชแทน ผมจะรับผิดชอบทั้งหมดแต่พฤติกรรมกับนักข่าว คิดว่าเป็นเพราะอะไร?

แต๊งค์ : “เมื่อเช้าผมได้ดูรายการพี่สรยุทธอยู่เหมือนกัน อันนี้ต้องรอดูต่อไป พี่ยุทธไม่ยอม ก็ต้องติดตามกันไป ผมว่ามันไม่ธรรมดา”

พชร์ : “มันต้องมีลับลมคมใน ไม่อย่างนั้น 5 คน ไม่ทำตัวน่าสงสัยถึงขนาดนี้ มันต้องมีอะไรแปลกๆ ไปแน่นอน กระติกที่เค้าพูดว่าถ้าเพื่อนตายเค้าก็ขาดรายได้ มันไม่น่าจะออกมาจากเพื่อนที่แตงโมรักมาก พี่โมโหแทนเลย เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ละ” 

กระติกเป็นคนยังไงที่รู้จัก?

แต๊งค์ : “ก่อนจะเกิดเหตุการณ์แล้วกันนะครับ ตอนนี้หลังเกิดเหตุการณ์ผมไม่รู้จักแล้วว่าเป็นคนยังไง ที่ผ่านมา 10 ปี เค้าอยู่กับแตงโมเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมา มีกระทบกระทั่งกันบ้าง มีดุมีด่ากันบ้าง ผมจะมองว่าแตงโมเค้าเป็นคนที่ช่วยเหลือคนรอบตัวตลอดเวลาอยู่แล้วแม้กระทั่งตัวกระติกเอง อย่างลูกสาวกระติกคนในวงการรู้เรื่องอยู่แล้วว่าเป็นมายังไง แตงโมก็ดูแลรับเลี้ยงทั้งแม่ทั้งลูก คือเอาตัวกระติกไปทำงานกับเค้าเป็นผู้จัดการ มีรายได้ รวมไปถึงญาติๆ ของกระติกอีกที่เข้ามาทำงานในบ้านโมด้วย ผมรู้สึกผิดหวังมากเลยตรงที่ว่าทำไมพวกคุณถึงไปเข้าข้างกันเอง คนบนเรือ แทนที่จะคิดถึงคนที่ช่วยเรามา พอเค้าลำบากเค้าตกน้ำทำไมไม่อยู่ช่วยกันให้ข้อมูลเต็มที่ก่อน เสียใจมาก ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ากระติกเค้าไปทำเรื่องรับงานอะไรมั้ย หรือบนเรือเกิดอะไรขึ้นกระติกปิดปากไม่ยอมรับความจริงเนี่ยผมไม่ขอไปก้าวล่วงให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ หน้าที่ของสังคมให้ช่วยกันสืบต่อไป ผมเองก็ทำได้แต่ดูตามสื่อเหมือนกัน” 

เรื่องการรับงานรู้จักกระติกในมุมยังไงบ้าง?

พชร์ : “เป็นคนนิสัยกะเทย แตงโมก็นิสัยกะเทย เพื่อนกะเทยเค้าเยอะเค้าจะสไตล์พูดเล่น แต่กระติกมันไม่ค่อยพูด รู้สึกมันต้องมีอะไรแน่นอน แต่บนเรือเราก็ไม่ได้ไปอยู่กับเค้า ไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรมันเป็นยังไง ทุกคนปิดบังมั้ย ต้องรอให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ไม่งั้นมันจะสู้คดีกันยาก มันต้องขึ้นศาลแน่นอน เพราะว่าศาลเค้าเชื่อหลักฐาน เราต้องรอดูกันต่อไป อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไร แต่เราก็ช่วยกันส่งแตงโมให้เค้าไปดี ไปแบบสวยๆ อะไรที่ไม่น่าพูดถึงพี่ว่าก็ไม่น่าพูดทำร้ายจิตใจน้องเปล่าๆ” 

หลังทราบข่าวถึงการเสียชีวิตรู้สึกยังไงกันบ้าง?

แต๊งค์ : “เสียใจครับ พูดแบบไม่ได้โลกสวยเราเห็นข่าวมา 2 วันแล้ว ใจมันไปแล้ว เราทำใจมาแต่เนิ่นๆ แล้ว ผมไม่ถึงกับน้ำตาไหล ผมเห็นใจเค้า เรารู้จักกันมา ปัจจุบันรู้สึกคือเป็นเพื่อนกัน ผมมีครอบครัวแล้ว เค้าก็มีแฟนแล้ว ผมไม่ได้ติดตามข่าวเค้าก่อนเกิดเหตุ แต่เห็นอัปเดตข่าวของเค้ามาจากภรรยาบ้าง ทางเพื่อนฝูงบ้าง ล่าสุดเห็นเค้ามีความรักที่ดี ชีวิตเค้าดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ผมรู้สึกมีความสุขยินดีที่เค้ามีความสุข”

พชร์ : “ตกใจมากเพราะแตงโมเพิ่งเข้ามาแซวพี่ในไอจี พอรุ่งขึ้นก็ได้ข่าวมันจริงหรอ พอวันเสียชีวิตมันเป็นไปได้ยังไงมันเร็วมาก คบแล้วเชื่อใจว่าแตงโมเป็นคนที่รักใครรักจริง ขนาดพี่เคยมีปัญหาอะไรแตงโมโทรมาเลยน้องจัดการให้มั้ย เราบอกอย่าไปยุ่งอยู่เฉยๆ ก่อน แตงโมรักใครมันให้เกินร้อย กลับกันถ้ากระติกตกน้ำพี่ว่าแตงโมมันโดดเข้าไปช่วยเลยนะ ความรู้สึกพี่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แตงโมมันช่วยเหลือคนจริงๆ ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดพี่ว่าแตงโมไม่เอาไว้หรอก”

ช่วงชีวิตตกต่ำที่สุด แตงโมเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยแต๊งค์?

แต๊งค์ : “ตั้งแต่ครั้งแรกเลยครับที่เจอเค้าเข้ามาเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิตผม เค้าคอยช่วยเหลือคนอื่นๆอยู่ตลอดเวลา เรื่องของการทำงานเค้าคอยสนับสนุนเต็มที่ รวมไปถึงเรื่องที่แย่ที่สุดในชีวิตของผมด้านมืดของผม คุณแตงโมเค้าคอยให้ความช่วนเหลืออยู่ตลอดแม้ว่าจะเลิกกันไปแล้ว เค้ายังคงคอยถามไถ่คุณแม่ผม ติดต่อกับครอบครัวผมคอยช่วยอยู่ตลอด ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เค้าเป็นกัลยาณมิตรให้ผมตลอด แม้กระทั่งปัจจุบันผมมีลูกมีภรรยาแล้ว เค้ายังคอยถามไถ่เกี่ยวกับลูกชายของผมทางคุณแม่ ชมลูกชายผมน่ารัก ยังไม่ทันได้เจอกันเลย เสียดายจริงๆ น้องเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีมาก จิตใจช่วยเหลือทุกคนเสมอ”

คุณแม่ตกใจมาก?

แต๊งค์ : “เค้าสนิทกับคุณแม่ผม เค้าเป็นเด็กที่น่ารักกับผู้ใหญ่ ณ ตอนนี้คุณแม่ก็ยังหัวร้อนอยู่ พร้อมให้การสนับสนุนที่ถูกอิทธิพล หรือใครมาข่มขู่ มาสร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่รูปคดี คุณแม่บอกผมมาว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ”

อยากให้จัดการยังไง?

แต๊งค์ : “เรื่องที่เรายังไม่รู้ ยังพิสูจน์ไม่ได้ที่เป็นหลักฐานยังไม่ปรากฏมาขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดีกว่า เราพูดไปมันไม่ได้อะไรขึ้นมา มันสร้างกระแสไปเรื่อยเปื่อย ปัจจุบันมันมีการตั้งข้อหาขึ้นมาแล้วผมว่าประเด็นนี้สำคัญ เพราะมัยเป็นปัจจัยสำคัญ ข้อหาต่อคนขับเรือเจ้าของเรือกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เพราะเค้าต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของคนบนเรือ ก่อนเกิดเหตุเค้าเป็นคนทำให้น้องโมตกอยู่ในสภาพเสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว เค้าไม่ได้ดูแลให้ทุกคนใส่เสื้อชูชีพ ตัวเค้าเองไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพไม่มีใบเดินเรือ เป็นประเด็นสำคัญมากที่เค้าต้องรับผิด รับโทษ ผลของการกระทำนี้ รวมไปถึงเค้ามีการความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือคนตกน้ำหรือปล่าวเค้าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้น้งโมไม่ได้รับการช่วยเหลือได้ทันเวลา ให้เค้าถูกดำเนินคดีข้อนี้อย่างเต็มที่ที่สุดก่อนอย่างแรกเลย ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมไป” 

พี่พชร์มีความเชื่อว่าเดี๋ยวแตงโมจัดการเรื่องนี้เอง?

พชร์ : “ตามที่พี่รู้จักแตงโมไม่ยอมแน่ ถ้าเรื่องมันไม่เป็นไปตามที่ทุกคนคิด ตอนนี้เรายังไม่สามารถสรุปอะไรได้มากตำรวจเค้ากำลังทำงานกันอยู่ ทำไมเราถึงสงายคนบนเรือ เพราะเค้าทำตัวมีพิรุธมากตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ยังมีพิรุธหลายๆอย่าง ก็ต้องรอผลจากตำรวจว่าเหตุการณ์จริงมันเป็นยังไง อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเราอาจจะคิดได้ก็ต้องรอดู ถ้ามันเป็นอย่างที่เราๆคิดทุกคนคิดพี่ว่าแตงโมไม่เอาไว้แน่” 

พี่พชร์ให้น้องมาเล่นเพื่อมีรายได้เอาไปใช้หนี้?

พชร์ : “หลังจากคุณพ่อเสีย” 

พี่พชร์ให้น้องมาเล่นเพื่อมีรายได้เอาไปใช้หนี้?

พชร์ : “หลังจากคุณพ่อแตงโมเสีย พี่เอาเค้ามาเล่นช่วยๆน้อง เค้าเป็นคนรับผิดชอบ ตั้งแต่วันที่พ่อเค้าไม่สบาย ยืมตังก็ให้ น้องมาเล่นหนังให้ ไม่มีใครรู้ว่าเราคุยกัน เค้าเป็นคนน่ารัก

งานศพคุณพ่อได้มีโอกาสไปร่วมงานด้วย?

แต๊งค์ : “ครับ มีโอกาสตั้งแต่ก่อนที่คุณพ่อจะเสียเข้าไปหาท่านที่บ้าน ผมขออนุญาติภรรยา มันไม่ได้มีการคุยกันมากมาย ครั้งนั้นยังถือว่าเราทำอะไรให้เค้า แตงโมกับคุณพ่อเคยเลี้ยงดูปูเสื่อเราเหมือน้ราเป็นลูกคนนึงเหมือนกัน มีอะไรพอตะช่วยได้เราก็ช่วย พูดคุยกับแตงโมเรื่องทั่วไปเราไม่คิดว่าวันนึงจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราคือเพื่อนที่ดีต่อกันงานศพคุณพ่อเราก็ไปร่วม”

ฝากบอกถึงแตงโม?

พชร์ : “น้องไปดีแล้วเราอยากให้น้องไปดี รูปน้องที่เจอศพให้ลยทิ้งดีกว่า เพราะน้องเป็นคนที่รักความสวยงามมาก เราส่งแตงโมไปสวรรค์แบบสวยๆ เค้าก็หมดห่วงอะไรแล้ว แตงโมก็ลำบากมาเยอะให้เค้าไปสบาย ขอให้น้องไปดี”

แต๊งค์ : “อยากให้คนรับรู้เรื่องราวของแตงโมมากกว่าที่เคยรู้มา ใครมีเรื่องราวดีๆของคุณแตงโมอยากให้ออกมาเล่ามาแชร์กัน มีอีกหลานด้านเลยที่คนทั่วไปอาจจะไม่ได้รับรู้หรือมองข้ามไป แตงโมเป็นคนที่มีคุณภาพมากในสังคมใช้ชีวิต มีคุณภาพในการทำงานมีความรับผิดชอบสูงมากเค้าเป็นคนที่ดูแลทุกคน ช่วยเหลือทุกคนอยู่ตลอด ยังไงก็ขอให้ช่วยกันส่งน้องโมไปด้วยความสวยงามนะครับ” 

ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama