2022-05-01

ผู้เลี้ยงไก่ขอปรับขึ้นราคาขาย หลังอาหารสัตว์ และน้ำมันแพงขึ้น

By Abdul

ผู้เลี้ยงไก่ร้องขอปรับราคาขายสะท้อนต้นทุน เพื่อผลิตเพียงพอต่อความต้องการหลังต้นทุนพุ่งรอบด้าน

นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ภาคปศุสัตว์ต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตทั้งจากโควิด-19 และสงครามรัสเซียกับยูเครน ทำให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับสูงขึ้นทั่วโลกเป็นประวัติการณ์โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวสาลีประมาณ ร้อยละ30 ตลอดจนน้ำมันดิบปรับสูงขึ้นเกิน 100 ดอลล่าสหรัฐต่อบาเรล

แต่อุตสาหกรรมไก่เนื้อ ผู้เลี้ยงไก่พยายามบริหารจัดการธุรกิจและต้นทุนอย่างเต็มที่ โดยได้ปรับราคาหน้าฟาร์มเพื่อให้เกษตรกรไม่ขาดทุนจากเดือนมกราคมที่ราคา 39 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 42 บาทต่อกิโลกรัมในปัจจุบันแล้วซึ่งก็เป็นการปรับอย่างสมเหตุผล ทำให้การผลิตเดินหน้าโดยไม่ให้หยุดชะงักและมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการบริโภค

แต่สิ่งที่ภาคปศุสัตว์เป็นกังวลและจะส่งผลกระทบต่อการผลิตในระดับสูง คือ ราคาเนื้อสัตว์ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากรัฐบาลได้ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงในการตรึงราคาไว้ แต่เมื่อต้นทุนการผลิตปรับขึ้นรอบด้านในสถานการณ์ไม่ปกติแบบนี้ ควรให้กลไกตลาดทำงานเพื่อให้เกษตรกรสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

โดยปัจจุบันผู้เลี้ยงไก่ประสบปัญหาขาดทุนไม่ต่างกับผู้เลี้ยงสัตว์อื่นๆ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการเนื้อไก่ลดลงมากและราคาตกต่ำ เนื่องจากผู้บริโภคไม่มั่นใจ รวมถึงการประกาศให้ทำงานที่บ้านและการเรียนออนไลน์ทำให้ผู้เลี้ยงต้องชะลอการเลี้ยง เพื่อสร้างสมดุลปริมาณที่ออกสู่ตลาดและราคาไม่ให้ตกต่ำมากจนเกษตรกรอยู่ไม่ได้

สำหรับราคาเนื้อไก่และชิ้นส่วนต่างๆในตลาดสดยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มสูงขึ้น โดยราคา ณ วันที่ 28 เมษายน 2565 ไก่ทั้งตัวเฉลี่ยต่อกิโลกรัมอยู่ที 75 บาท อกไก่ 85 บาท น่องไก่ 65 บาท ขณะที่ราคาไก่หน้าฟาร์มอยู่ที่ 42 บาทต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้ สมาคมฯ ขอเรียกร้องให้ภาครัฐพิจารณามาตรการสนับสนุนต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ให้มีการนำเข้าในส่วนที่ขาดแคลนและยกเลิกอุปสรรคการนำเข้า เช่น ภาษีและโควต้านำเข้า และให้ราคาเนื้อปรับขึ้นลงตามกลไกการตลาด