2022-05-08

ทหารเก๊เทงานแต่งถูกแฉอีก หลอกหญิงอีกรายเมื่อปี 63 อ้างติดราชการด่วน

By Abdul

คืบ ทหารเก๊เทงานแต่ง 2 รอบ ล่าสุด แม่อดีตว่าที่เจ้าสาวรายแรกเปิดใจ ต่อหน้าทำดี ไม่คิดว่าจะหลอกคนอื่นเหมือนลูกสาวตน

จากกรณี หนุ่มโคราชชื่อ “เอก” ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา อ้างตัวเป็นทหาร ยศจ่าสิบเอก เป็นทหารพรานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไปขอแต่งงานกับนางสาวน้ำทิพย์ อายุ 40 ปี พนักงานโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังพบรักกันทางออนไลน์ เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2564 แล้วตกลงแต่งงานกันในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 โดยจะจัดค่าสินสอดเงินสด 200,000 บาท ทองรูปพรรณ 3 บาท ไปสู่ขอกับพ่อแม่ฝ่ายหญิง พร้อมกับจะเตรียมซุ้มดอกไม้ ดนตรี อาหาร เครื่องดื่มเอง แต่เมื่อถึงวันแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวและญาติได้จัดเตรียมงานไว้พร้อม แต่ฝ่ายชายกลับล่องหน หายตัวไปไม่มาร่วมพิธี ทำให้กลายเป็นวิวาห์ล่ม แต่ก็ต้องต้อนรับแขกเพียงลำพังจนงานเสร็จ ทำให้ฝ่ายหญิงและครอบครัวต้องเป็นหนี้ค่าจัดเตรียมงานพิธีทางศาสนา จัดโต๊ะจีนพร้อมเครื่องดื่ม 50 โต๊ะ รวมเป็นเงินกว่า 300,000 บาท

นอกจากนี้ แหล่งข่าวได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อครั้งสมัยที่นายเอกฯ เป็นการ์ดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ได้เคยหลอกลวงหญิงสาวอีกรายในลักษณะเดียวกัน ซึ่งหญิงสาวรายดังกล่าว เป็นสาวเสิร์ฟของร้านฯ ชื่อว่า น.ส.กัญญารัตน์ โดยว่านล้อมให้หลงรัก พาเข้าบ้านไปรู้จักพ่อแม่ และขออยู่กินฉันท์สามีภรรยา ก่อนจะออกอุบายขอแต่งงาน และยื่นข้อเสนอเป็นสินสอดเงินสด 2 แสน ทองคำ 4 บาท พร้อมบ้านอีก 1 หลัง จนฝ่ายหญิงตายใจ สั่งทำการ์ดแต่งงาน 100 ใบ กำหนดแต่งวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 แต่จะมีพิธีหมั้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ซึ่งเมื่อถึงกำหนดพิธีหมั้น นายเอกฯ กลับไม่ยอมไปร่วมพิธี โดยอ้างติดราชการด่วน พอโทรสอบถามหนักเข้า บอกว่าถูกอุ้ม ทะเลาะกับแม่ แม่ไม่ยอมรับเจ้าสาว ทำให้งานหมั้น และงานแต่งต้องล้มเลิกไป โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น น.ส.กัญญารัตน์ฯ ต้องเสียเงินทำการ์ดงานแต่งไป 600 บาท และเงินซื้ออาหารมาไว้เตรียมต้อนรับอีก 5,000 บาท

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ น.ส.กัญญารัตน์ฯ ในหมู่ 4 บ้านหนองปลิง ต.ไชยมงคล อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งได้พบกับนางนันทวัน มารดาของ น.ส.กัญญารัตน์ฯ ซึ่งได้นำการ์ดงานแต่งมาให้ดู พร้อมกับเปิดใจกับผู้สื่อข่าว ว่า ตนรู้อยู่ว่านายเอกได้คบหาอยู่กับลูกสาวมาก่อนแล้ว แต่ไปเช่าบ้านอยู่ช้างนอกด้วยกัน เข้าออกที่บ้านอยู่ประมาณ 5-6 เดือน

ก่อนจะให้ลูกสาวมาขออนุญาตอยู่กินที่บ้านในช่วงเดือนเมษายน 2563 จากนั้น ประมาณ 1 เดือน นายเอกก็ขอลูกสาวของตนแต่งงาน โดยยื่นข้อเสนอเป็นสินสอด เงินสดจำนวน 4 แสนบาท และทองคำอีก 5 บาท ยอมรับว่า ตอนนั้นไว้ใจนายเอกฯ อย่างมากเนื่องจากลูกสาวบอกว่า นายเอกเป็นนายทหาร ยศร้อยเอก และระหว่างที่มาอยู่ที่บ้าน ก็เป็นคนพูดจาไพเราะ เอาใจเก่ง นิสัยเข้าได้กับทุกคน จนมาถึงกำหนดวันหมั้น ช่วงเช้าของวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 นายเอกฯ ได้ขอตัวออกจากบ้าน อ้างว่า จะไปรับญาติมาร่วมพิธี แล้วก็หายตัวไปเลย จนลูกสาวต้องโทรตาม พอนายเอกฯ รับสายก็อ้างอีกว่า มีปัญหากับแม่ แม่ไม่ยอมมาร่วมงานหมั้นและแม่ไม่ยอมรับในตัวเจ้าสาว ทำให้ต้องล้มเลิกทั้งงานหมั้นและงานแต่ง แต่ยังโชคดีที่ลูกสาวสูญเงินไปไม่ถึงหมื่นบาท

ซึ่งหลังจากลูกสาวของตนมาเล่าว่า นายเอกฯ ไปหลอกลวงหญิงสาวรายคนอื่นอีก ตนก็รู้สึกเสียใจที่ต้องมาโดนหลอกเหมือนกับลูกสาวของตน อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ฯ นำตัวนายเอกฯ มาดำเนินคดีโดยเร็ว จะได้ไม่ไปทำพฤติกรรมหลอกลวงหญิงสาวรายอื่นๆ อีก

  • เจ้าบ่าวเทงานแต่ง เผยไม่เคยบอกว่าเป็นทหาร เจ้าสาวเข้าใจผิดเอง
  • เปิดใจ “ทิพย์” เจ้าสาวถูกเทงานแต่ง แฉทหารเก๊อ้างรวยเงินล้าน แม่ทำงานในวัง
  • แม่เจ้าบ่าวเทงานแต่ง ประกาศตัดหางปล่อยวัด ไม่นับแม่นับลูก ไปเคลียร์กันเอง
  • เจ้าบ่าวเทงานแต่ง โผล่แล้ว อ้างหนีเพราะสินสอดไม่พอ ยืนยันรักเจ้าสาวจริง
  • ทบ. ตรวจสอบแล้ว เจ้าบ่าวเทงานแต่ง อ้างเป็นทหาร ไม่พบชื่อในฐานข้อมูลกองทัพ
  • สาวโรงงานสุดช้ำ ถูกเจ้าบ่าวอ้างเป็นทหารเทงานแต่ง ต้องเข้าพิธีวิวาห์ตามลำพัง