2022-07-13

“ซาร่า โฮเลอร์” เผยความรักกับโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน พรหมลิขิตเจอกันร้านเสื้อผ้า

By Abdul

ซาร่า โฮเลอร์ นักร้อง นักแสดง พิธีกรสาวสายฮา ที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรกหลังเปิดตัวหนุ่มรู้ใจตาน้ำข้าว แอช จอร์แดน โปรดิวเซอร์เพลงจากอเมริกาที่คบหากันมาเกือบ 1 ปีแล้ว งานนี้เรียกได้ว่าเป็นรักที่ลงตัวกันทุกเรื่อง เพราะไลฟ์สไตล์ตรงกันสุดๆ  ในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยวัฒน์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร 

ซาร่าดูสดใสมาก กำลังมีความรักอยู่ เค้าชื่ออะไร ?

ซาร่า : “ชื่อแอชค่ะ เป็นคนที่ทำงานด้วยกัน” 

คุยกันมานานเท่าไหร่ ?

ซาร่า : “คุยกันเมื่อปลายปีที่แล้วประมาณกันยายน” 

คุยกันมา 10 เดือนแล้ว เค้าน่ารักยังไงทำไมชนะหัวใจเราได้

ซาร่า : “น่าจะเป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า ด้วยความที่ ณ ตอนนั้นเราก็เริ่มจากความเป็นเพื่อน” 

เจอที่แรกตอนไหน ?

ซาร่า : “เจอที่แรกไปช้อปปิ้งคือร้านเสื้อผ้า เราก็เดินซื้อของกับเพื่อนปกติ แต่วันนั้นหนูมีงานตอนเช้าก็เลยแต่งตัวดูดีนิดนึง หน้าผมพร้อม แต่ว่าใส่แมสก์ ส่วนเค้าหนูก็เห็นไกลๆ คือใส่สูทเสื้อฟิตมาก กางเกงก็ค่อนข้างลีน หนูก็นึกว่าเค้าเป็นฟิตเนสเทรนเนอร์มาซื้อของ คือเกย์แน่ๆ แต่เราก็ไม่ได้สังเกตอะไรขนาดนั้นก็เดินซื้อเสื้อผ้าเรื่อยเปื่อย แล้วเราก็หายไปเข้าห้องน้ำ แล้วขณะที่เรากำลังจะกลับเข้าร้านไปอีกรอบเพราะเพื่อนรออยู่ เค้ากำลังจะออกจากร้านพอดี หนูกำลังจะเข้าไปพอดีจากห้องน้ำ แล้วเค้าก็เดินตรงเข้ามาเลย เราก็ตกใจเกิดอะไรขึ้น เค้าก็บอกว่าขอโทษนะครับ ผมตามหาคุณมาซักพักแล้ว ไม่ทราบคุณชื่ออะไร ก็ถามชื่อ” 

ตอนที่เค้ามาทักซาร่า ซาร่ารู้สึกว่าเค้าต้องการอะไรจากเรา ?

ซาร่า : “ตอนนั้นหนูรู้สึกว่าหนูสวย (หัวเราะ)” 

แล้วเค้ามาเจอซาร่าตรงไหนเพราะโดยหลักแล้วเค้าไม่ต้องมาเจอซาร่าก็ได้ถ้าซาร่าไปกับเพื่อนผู้หญิง ?

ซาร่า : “เค้าเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ฟังก็คือเค้าเห็นหนูก่อนที่หนูจะหายไปเข้าห้องน้ำ แล้วเค้ากำลังจะจ่ายตังค์แต่ช่องจ่ายตังค์มันโดนบล็อกด้วยของเป็นทางเดินเข้าแล้วเค้าก็ออกมาไม่ได้ เค้าต้องรอให้จ่ายตังค์เสร็จก่อน แล้วเค้าก็เห็นว่าหนูหายไป เค้าก็ยังมองหา เมื่อไหร่จะจ่ายตังค์เสร็จซักที เพราะเค้านึกว่าหนูหายไปแล้ว” 

ขนาดว่าเค้าเห็นว่ามีแมสก์แล้วก็เห็นเราแค่ตาหรอ ?

ซาร่า : “ใช่ หนูก็บอกว่าคุณจะกล้ามาขอเบอร์ได้ยังไงเราเห็นกันแค่ตานะ แล้วเค้าก็พูดว่าผมรู้สึกว่าผมจะต้องรู้จักคุณ เค้าก็ขอคอนแทคได้มั้ย หนูก็ให้ไลน์ ถ้าให้เบอร์ถ้าเกิดเราไม่อยากสานต่อล่ะ แต่ถ้าไลน์เรายังมีโอกาสได้เห็นรูปเรายังเข้าไปสืบเค้าได้” 

แสดงว่าตอนนั้นยังลังเลอยู่ ?

ซาร่า : “ใช่ แล้วก็ไม่ได้ให้ IG ไม่ได้ให้เบอร์ ให้แค่ไลน์ เพราะไลน์หนูค่อนข้างส่วนตัวมาก รูปก็จะไม่มีหน้าเรา ฟีดข้างในไลน์ก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวกับเราเลย” 

เห็นว่าเค้าติดต่อมาด้วยแต่คุณไม่ติดต่อเค้ากลับเลย เพราะว่าช่วงนั้นตระเวนถามเพื่อนอยู่ว่าจะคบกับเค้าดีมั้ย เป็กก็เป็นคนนึงที่เค้าเข้ามาถามด้วย?

เป็กกี้ : “เค้าเข้ามาถามว่า พี่เป็กมีผู้ชายมาจีบ เราก็ขอดูรูปผู้ชายหน่อย งานดีนะเธอ ซาร่าเค้าก็บอกว่าเค้าเขินที่ต้องมีแฟนเป็นคนผิวสี แล้วคนจะคิดยังไง แม่จะคิดยังไง เราก็บอกว่าถ้าคุยแล้วคลิกโอเคก็คุยกับเค้าเลย แล้วอยู่ดีๆ เป็กก็เห็นว่าเค้าคบกันคือดีใจนะ คุณตระเวนถามใครบ้างว่าคุณจะคบกับคนนี้”

ซาร่า : “คือหนูมีอะไรก็จะเล่าให้เพื่อนฟังเวลาไปทำงาน เพราะหนูคิดว่าคนที่เราไปทำงานด้วยกันก็เหมือนคนในครอบครัว เจอเหตุการณ์อะไรตอนนั้นเราก็อยากแชร์ อยากถามความรู้สึก สุดท้ายแล้วทุกคนก็บอกว่าเค้าน่ารัก” 

เป็กคนนึงที่ให้ เซย์ เยส แล้วมีอีกกี่คน ?

ซาร่า : “ก็มีดาวโอเกะ แล้วก็พี่นุ้ย” 

อะไรทำให้เราตอบรับเค้า ?

ซาร่า : “เค้าพิมพ์มา 3 ครั้งไม่ได้ตอบ เราก็ยุ่งด้วย จำไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เค้าถามอะไรบ้างแต่เค้าก็พยายามทักมา แต่ประโยคสุดท้ายที่เค้าส่งมาเค้าบอกว่า “ผมเข้าใจนะว่ามันดูแปลกการที่จะรู้จักใครซักคนในที่แรนดอมอย่างนั้น แต่ผมต้องการมิตรภาพ” ด้วยคำว่ามิตรภาพหนูก็เลยกล้าที่จะเปิดใจ พอหลังจากประโยคนั้นหนูก็พูดกับเค้าตรงๆ ตั้งแต่แรกแล้วว่าหนูไม่ได้พร้อมจะมีสัมพันธ์กับใคร หนูอยากทำงานด้วย ตอนนั้นก็ยังยุ่งเรื่องของการไปเป็นมาสเตอร์เชฟฝึกทำอาหารอยู่ ก็อยากโฟกัสตรงนี้ พอเค้าพูดว่าเป็นเพื่อนก็ชวนเราไปกินกาแฟร้านนึง” 

เหมือนกับเดทแรก ?

ซาร่า : “เค้าก็ส่งโลเคชั่นมาให้เค้าก็ถามว่าคุณรู้จักร้านนี้มั้ยเป็นร้านมังสวิรัติ เราก็แบบเค้ารู้ได้ยังไงว่าเราเป็นมังสวิรัติ หนูไม่ได้ให้ IG เค้า ไม่ได้รู้ความเคลื่อนไหวของเรา ตอนนั้นหนูกินมังสวิรัติมาได้เกือบปีแล้ว” 

ตอนนั้นเค้ายังไม่รู้ว่าเราคือซาร่า ?

ซาร่า : “ยังไม่รู้เลยค่ะ”

หลังจากนั้นประมาณกี่เดือนที่พาไปซื้ออาหารเจ ?

ซาร่า : “เป็นช่วงเทศกาลกินเจก็เลยชวนไปเดินตลาดเจที่อันนั้นคือครั้งที่ 2 แล้วก็ครั้งที่ 3 เค้าอยากไปเดินมิวเซียม เราก็พาไป MOCA ตอนไป MOCA เค้าเริ่มเอะใจแล้วเพราะว่าพี่ รปภ. ข้างหน้าขอถ่ายรูป ตอนแรกเค้าก็งงว่าทำไมต้องขอถ่ายรูปเรา” 

พอเค้าเริ่มรู้ว่าเป็นใครในเมืองไทยเค้าเป็นไง ?

ซาร่า : “เค้าก็เซอร์ไพร์สขึ้นไปอีก เค้าก็บอกว่าเค้าโชคดีขึ้นไปอีก เค้าทำเพลงมาตั้งแต่อายุ 18 ครอบครัวเค้าก็เป็นโปดิวเซอร์แต่งเพลงอยู่ในวงกอสเปลที่อเมริกา แล้วเค้าก็มีโฮมสตูดิโออยู่ที่บ้านของเค้า หลังจากที่เค้ารู้ว่าเราเป็น อะไรหนูก็บอกเค้าว่าหนูทำงานในวงการ ก็มีผลงานเพลงบ้าง” 

ถ้าเราไม่รู้ว่าเค้าเป็นโปรดิวเซอร์เราคิดว่าเค้าทำงานอะไร ?

ซาร่า :  “เค้าบอกว่าเค้าทำงานเป็น IT ค่ะ” 

หลังจากที่ไปเทศกาลอาหารเจ หลังจากนั้นนานมั้ยที่รู้สึกว่าอยากเปิดใจให้คนนี้ ?

ซาร่า : “ก็หลังจากครั้งที่ 3 ที่ไปพิพิธภัณฑ์ เพราะว่าหนูเป็นคนชอบเสพงานอาร์ต ไม่ได้เหมือนแบบไปดูหนังมั้ย ไปกินข้าวอะไรอย่างงี้ คือไปกินเพื่อสุขภาพ ไปเสพศิลป์ เราก็เลยชอบตรงนี้” 

เห็นว่าหลังจากนั้นก็เริ่มเปิดใจเริ่มคุยเรื่องความรัก

ซาร่า : “ก็เริ่มจากว่าคุณมีความชอบอะไร คุยกันเรื่องเพลงก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยคุยกันลึกขึ้นไปในเรื่องของความรัก” 

ใครเปิดก่อนเรื่องความรัก ?

ซาร่า : “ก็น่าจะเป็นเค้า ก็เริ่มจากความสัมพันธ์มาจากเพื่อนเลย” 

เวลาเปิดใจเรื่องความรักเค้าคุยกับเราว่าไงบ้าง ?

ซาร่า : “หนูก็ถามถึงอดีตของเค้า หนูก็เล่าถึงเรื่องที่ผ่านมาทุกๆ อย่างแบบเคลียร์ทุกอย่าง เค้าก็เคยมีความสัมพันธ์ที่เลิกกันมา อยู่คนเดียวมาเกือบปี” 

ณ จุดไหนที่รู้สึกสบายในการอยู่ด้วยกันจนได้คุยวีดีโอคอลกับแม่ของเค้า ?

ซาร่า : “แม่เค้าอยู่ที่อเมริกา คือเค้าเป็นคนที่ติดต่อกับครอบครัวบ่อยมาก สิ่งที่ชอบคือเค้าจะรักแม่คุยกันเป็นชั่วโมงเลย แต่สิ่งที่เป็นตัวเรามากขึ้นคือการทำเพลงค่ะ คือเราไม่กล้ากลับมาทำเพลงอีกครั้งแต่เค้าเป็นคนจุดประกายว่ามันไม่มีคำว่าสายเกินไป ความฝันตั้งแต่เด็กแล้วที่อยากทำเพลง เราก็ไม่ได้ขวนขวายเยอะเท่าไหร่จนกระทั่งมีเค้ามาผลักดันอีกครั้งนึง เค้าบอกว่าให้พื้นที่เค้าตรงนี้เป็นพื้นที่สบายใจของคุณ” 

ตอนนี้พาไปเจอแม่ของซาร่าหรือยัง ?

ซาร่า : “เค้าเป็นคนขอไปเจอคุณพ่อคุณแม่เลย แล้วก็ตอนที่ไปเจอที่เชียงใหม่บังเอิญมาก พอดีพายุเข้าบ้านแล้วกระจกแตก แล้วเค้าอยู่ในเหตุการณ์พอดี เค้าเลยได้ช่วยคุณแม่พอดี คุณแม่เค้าก็เหมือนสบายใจ แต่หลักๆ แล้วเวลาแม่เค้าได้เห็นว่าเราได้ทำอะไรในสิ่งที่เราฝันหรือสิ่งที่เราชอบเค้าก็จะสนับสนุน”

ตอนที่ทำเพลงใหม่กับหนุ่มแอชถึงขั้นเสียน้ำตาเพราอะไร ?

ซาร่า : “เราอยู่ในห้องอัด อัดเสียงอยู่ อัดอยู่นานมาก แล้วแอชเค้าก็พยายามบิ้วท์เราว่าคุณทำได้ เค้าจะขุดทุกอย่างที่สามารถให้กำลังใจเราทั้งโลกนี้มาให้เรา เราผิดหวังในตัวเราว่าทำไมทำไม่ได้ซักที เหมือนเวลาเราเข้าบ้าน AF แล้วเราทำไมถึงร้องเพลงไม่ได้ซักที ฟีลเดียวกัน เราห่างจากการเข้าห้องอัดมากนานมาก ทำไม่เราถึงไม่เข้าใจซักทีเค้าใจเย็นกับเรามาก เค้าอยู่ตรงนั้นตลอด 6  ชั่วโมง เพื่อจะให้เราร้องประโยคแค่ท่อนเดียว แต่เราทำไม่ได้ซักที เราก็เลยเสียใจ ก็เลยร้องไห้ออกมาเลยพูดกับตัวเองว่าทำไมเราทำไม่ได้ซักที ขอบคุณเค้าด้วยที่อดทนกับเรา เค้าก็ไม่ท้อที่จะปลอบ ก็ปลอบเรายาว” 

ตั้งแต่คบกับเค้าชีวิตของเราเปลี่ยนไปขนาดไหน ?

ซาร่า : “หนูว่าหนูโตขึ้น มองชีวิตแบบต่อให้เราจะเจออุปสรรคอะไร เราจะมีวิธีการจัดการสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น แล้วก็รู้สึกว่าอะไรก็เป็นไปได้ มันอยู่ที่ความเชื่อถ้าเราทำมาจากใจ” 

บางคนทักว่าถ้าซาร่าจะเอาอินเตอร์ทำไมไม่เอาผิวขาวไปเลย หรือ เกาหลีไปเลย ทำไมถึงมาชอบผิวสี ?

ซาร่า : “หนูว่ามันอยู่ที่จังหวะเวลา ก่อนหน้านี้ก็มีคนเข้ามาทักแต่ก็ไม่ใช่ซักที จังหวะเวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่คิดว่าใช่สำหรับคุณอาจจะไม่ใช่สำหรับเรา สิ่งที่ใช่สำหรับเราอาจไม่ใช่สำหรับคุณ อยู่ที่ตอนนั้นอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกดีและมีความสุขก็จงเชื่อใจคุณแล้วก็ทำในสิ่งที่คุณมีความสุข” 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama