2021-05-20

Zipmex ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

By Natcha

“ Zipmex” (ซิปเม็กซ์) แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนําของไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น ล่าสุดได้จับมือกับ The Brooker Group (BROOK) ที่ปรึกษาด้านการวางแผนธุรกิจทางการเงิน การลงทุน และอสังหาริมทรัพย์ ร่วมกันขยายผลิตภัณฑ์ และการบริการทางด้านการลงทุน  โดย The Brooker Group เป็นบริษัทแห่งแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ถือบิตคอยน์ ( Bitcoin) ในงบดุล

ในสัปดาห์นี้ Zipmex ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย จากกระทรวงการคลัง ประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และขณะนี้อยู่ในระหว่างการขออนุมัติการดำเนินธุรกิจจากสำนักงาน ก.ล.ต. ทำให้ Zipmex Thailand นั้นถือใบอนุญาตสองใบคือ ใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และใบอนุญาตนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้บริษัททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้การจับมือกันระหว่าง The Brooker Group ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ Zipmex นั้น ส่งผลให้ทั้ง 2 บริษัท ได้รับประโยชน์จากการร่วมมือกันครั้งนี้ โดย The Brooker Group นั้นจะสามารถขยายฐานการบริการลูกค้าได้โดยเพิ่มการบริการ และให้คำปรึกษาทางการเงินในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และการบริการต่าง ๆ ของ Zipmex “เราเลือกใช้บริการกับ Zipmex เพราะชื่อเสียงและการเข้าถึงบริการในระดับภูมิภาค ลูกค้าของเราจะได้รับประโยชน์จากบริการต่าง ๆ ของ Zipmex มากมาย เช่น ZipUp (ผู้ที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลจะได้รับโบนัสรายวันจากการฝากเหรียญคริปโทฯ ) นอกจากนี้ยังมี ZipSpend ซึ่งบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัทที่มีชื่อเสียงมากมาย ซึ่งเรามั่นใจว่าพันธมิตรครั้งนี้จะช่วยขยายและเป็นประโยชน์ต่อฐานลูกค้าของเรา” คุณวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวาณิชธนกิจ และผู้อำนวยการ The Brooker Group กล่าว

Zipmex ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นที่ยอมรับ และมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างสูงในระดับสากล สำหรับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล การดำเนินการ และการทำธุรกรรมต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด โดยจะต้องมีการคำนึงถึงความเหมาะสมในการดูแลรักษาระบบรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินดิจิทัลของลูกค้า เพื่อให้ได้รับใบอนุญาตประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) ในครั้งนี้ 

นอกจากนี้ทั้งสองบริษัทยังได้รับการพิจารณาให้เป็น “สถาบันการเงิน” ตามกฎหมายที่ต่อต้านการฟอกเงิน ซึ่งหมายความว่าการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ จะดำเนินการอยู่ภายใต้ข้อกำหนดการตรวจสอบและการรายงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

ใบอนุญาตประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) จะช่วยให้ Zipmex มอบการบริการที่สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากธุรกรรมการแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มนั้นสามารถดำเนินการได้ทั้งในประเทศสิงคโปร์, อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย โดยลูกค้าสามารถบันทึกคำสั่งซื้อขายเข้าด้วยกันได้ อาทิ ผู้ที่ต้องการซื้อบิตคอยน์ในประเทศไทย อาจจะซื้อมาจากคนขายชาวออสเตรเลีย เป็นต้น นี่จะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนที่มากขึ้นบนแพลตฟอร์มที่มีสภาพคล่องสูง นอกจากนี้ใบอนุญาตยังจะช่วยให้ Zipmex เพิ่มการให้บริการอื่น ๆ ได้อีกมากมายบนแพลตฟอร์ม 

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง ซิปเม็กซ์ ประเทศไทย กล่าวว่า :

“เรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับใบอนุญาตนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติมในครั้งนี้ ความสำเร็จนี้จะเป็นการเดินหน้าไปสู่เป้าหมายของเราอีกขั้น ในการให้บริการด้านการลงทุน ทำให้เราสามารถเพิ่มรายการเหรียญดิจิทัลได้มากขึ้น และยังเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าด้วยบริการที่หลากหลายที่นำเสนอบนแพลตฟอร์ม Zipmex โดยเรากำลังปรับปรุงในด้านประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ ตลอดจนเราได้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานเพื่อดูแลลูกค้าของเรา ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจและสร้างสภาพแวดล้อมที่ผู้ใช้งานจะรู้สึกปลอดภัยเมื่อเข้ามาใช้บริการ”

โปรเจกต์ ZipSpend

ในขณะนี้ทาง Zipmex อยู่ระหว่างการการดำเนินการเจรจาจับมือกับพันธมิตรกว่า 35 รายสำหรับโปรเจกต์ ZipSpend รวมถึงการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการจับมือกับ The Brooker ซึ่งเป็นเป็นบริษัทแห่งแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ถือบิทคอยน์ (Bitcoin) ในงบดุลนั้นจะนำมาสู่พันธมิตรทางการค้าอีกมากมาย

เกี่ยวกับ Zipmex

“ซิปเม็กซ์” เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่เดียวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐถึง 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยมุ่งเน้นการให้บริการนักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อย และมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้ และเพิ่มคุณค่าให้กับประชาชนทั่วไปเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมสร้างความมั่งคั่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์ที่นอกเหนือจากด้านการเงิน