รัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มจับกุมผู้หลีกเลี่ยงภาษี Bitcoin แล้ว
ท่ามกลางการยอมรับใน bitcoin ที่เพิ่มขึ้น สินทรัพย์ดิจิทัลกำลังถูกใช้ในการหลีกเลี่ยงภาษีในประเทศเกาหลี หน่วยงานด้านภาษีของประเทศได้มีการควบคุมอย่างเข้มงวด จนทำให้เกิดการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงภาษี โดยใช้สกุลเงินดิจิทัล
ไม่มีอะไรหลบซ่อนได้อีกต่อไป
เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลเกาหลีได้สรุปการตัดสินใจที่จะเรียกเก็บภาษีจากผลกำไรใน bitcoin การพิจารณากฎหมายนี้สอดคล้องกับการยอมรับในสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น และความคล้ายคลึงกันกับเครื่องมือและสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ที่ต้องเสียภาษี โดยกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีหน้า แต่ในระหว่างนี้ชาวเกาหลีจำนวนมากได้วางแผนที่จะหลบเลี่ยงภาษีโดยใช้ bitcoin
หน่วยงานด้านภาษีของเกาหลีอย่าง NTS ได้ตรวจสอบแผนการนี้ ซึ่งทางกรมสรรพากรระบุว่า ได้จับกุมชาวเกาหลีกว่า 2,400 คน เนื่องจากมีการซ่อนทรัพย์สินมูลค่า 3.6 หมื่นล้านวอน (32.24 ล้านดอลลาร์) ผ่านสกุลเงินดิจิทัล เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีให้กับรัฐบาล
การตรวจสอบครั้งนี้เพิ่มเติมเผยให้เห็นถึงพันธบัตรและเงินสดที่ซ่อนไว้ ซึ่งเกิดจากภาษีค้างชำระจำนวน 10 ล้านวอน หน่วยงานรายงานว่ากำลังจะปิดคดีเกี่ยวกับผู้กระทำผิด 222 ราย สำหรับการหลีกเลี่ยงภาษีอื่น ๆ โดยกฎหมายที่จะบังคับใช้ในอนาคตจะช่วยเพิ่มความโปร่งใส และอาจปิดโอกาสในการหลีกเลี่ยงภาษีสกุลเงินดิจิทัล
โดยกฎหมายดังกล่าวระบุว่า นักลงทุนและเทรดเดอร์จะต้องจ่ายภาษี 20% หากมีรายได้จาก bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ มากกว่า 2.5 ล้านวอน (เกือบ 2,300 ดอลลาร์ในอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน)
เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายแล้ว จะเป็นการแสดงความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายภาษีของประเทศด้วย การขาดกฎหมายเหล่านี้อาจทำให้ข้อโต้แย้งได้
เพ่งเล็งไปที่การหลีกเลี่ยงภาษี คริปโต
สกุลเงินดิจิทัลมีความใกล้เคียงกับประเภทสินทรัพย์แบบดั้งเดิม ในแง่ของการนำไปใช้ ทำให้รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลก็หันไปสนใจไปที่สินทรัพย์เหล่านี้เช่นเดียวกัน ในขณะที่รัฐบาลหลายประเทศยอมรับว่าเป็นทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษี แต่ประเทศอื่น ๆ ต้องต่อสู้กับความเป็นไปได้ที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะช่วยลดการหลีกเลี่ยงภาษี
หน่วยงานด้านไซเบอร์ดิจิทัลของสหรัฐฯระบุว่า การหลีกเลี่ยงภาษีเป็นหนึ่งในสามประเภทของการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ผิดกฎหมาย ในรายงานฉบับสมบูรณ์ระบุถึง “การฟอกเงิน การป้องกันกิจกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายจากภาษี รวมถึงการรายงานหรือข้อกำหนดทางกฎหมายอื่น ๆ”
เมื่อปีที่แล้วองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) สนับสนุนให้หน่วยงานกำกับดูแลใช้แนวทางภาษีสกุลเงินดิจิทัลที่เหมือนกัน ซึ่งองค์กรเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลต้องมีการเจรจากัน เนื่องจากการใช้สกุลเงินดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง