2021-05-10

ทำไม Dogecoin ถึงกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก?

By Natcha

จากจุดเริ่มต้นในการสร้างเหรียญดิจิทัลเพื่อความบันเทิงของคู่หูวิศวกรรมด้านซอฟท์แวร์อย่าง Jackson Palmer และ Billy Markus ในปี 2013 คงไม่มีใครคาดคิดว่าในเวลาต่อมาเหรียญดังกล่าวจะกลายเป็นเหรียญมีมตลกอันโด่งดังบนโลกออนไลน์และมีมูลค่าตลาดมากมายมหาศาลได้เพียงนี้ เหรียญที่ว่าก็คือ “ Dogecoin” นั่นเอง

โดยล่าสุดเหรียญ Dogecoin (DOGE) มีระดับราคาการซื้อขายอยู่ที่ $0.54 พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ส่งผลให้มูลค่าตลาดโดยรวมแซงเหรียญชั้นนำอื่น ๆ อย่าง ADA, USDT, XRP, DOT และ BCH ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 อย่างเหนียวแน่นด้วยมูลค่าตลาดที่มากกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ 

และปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ว่ากระแสของเหรียญดังกล่าวเข้าไปในทุกหย่อมหญ้าของการลงทุนในชั่วโมงนี้แล้ว ซึ่งสิ่งที่ทำให้ราคาและความนิยมในตัว Dogecoin เพิ่มสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่งนี้ มีปัจจัยมาจากอะไร? ทำไมถึงเป็นกระแสที่ทั่วโลกต่างพูดถึง? วันนี้ Siam Blockchain จะพาไปสำรวจกันในบทความนี้

Elon Musk เป็นต้นเหตุของกระแสครั้งนี้?

จุดเริ่มต้นของกระแส Dogecoin นั้นอาจมีที่มาจากการทวีตของ CEO หัวเรือใหญ่แห่ง Tesla ในปี 2019 ที่ได้ทวีตตอบกลับแฟน ๆ ว่า 

“Dogecoin คือเหรียญคริปโตตัวโปรดของผม มันค่อนข้างแจ๋วเลยนะ”

เมื่อผู้คนที่ติดตามเขากว่า 50 ล้านคนผ่านทางทวิตเตอร์เห็นดังนั้น จึงเกิดการค้นหาคำว่า Dogecoin บนอินเทอร์เน็ตและเริ่มมีการพูดถึงกันในชุมชน Twitter และ Reddit ทำให้ Dogecoin เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นซึ่งไม่ใช่แค่ในวงการคริปโตเพียงเท่านั้น

โดยในปีนี้ที่เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Cryptocurrency นาย Elon Musk ก็ได้กลับมากล่าวถึง Dogecoin อยู่บ่อยครั้งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับความนิยมในสกุลเงินดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในการลงทุนท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ร้อนระอุจากพิษ COVID-19 ทำให้ Dogecoin ยิ่งกลายเป็นกระแสไปทั่วโลกส่งผลให้ผู้คนได้รู้จักและตกหลุมรักกับเหรียญสุนัขพันธุ์ชิบะสุดน่ารักตัวนี้

ล่าสุดนาย Elon Musk เพิ่งได้ไปออกรายการทีวีโชว์ชื่อดัง Saturday Night Live ซึ่งเป็นที่จับตาของเหล่าแฟน ๆ เหรียญ Dogecoin เป็นอย่างมากเนื่องจากมีการเกริ่นก่อนหน้านี้หลายวันในการพูดถึง Dogecoin ในรายการ ทำให้ราคา DOGE ดีดตัวอย่างรุนแรงท่ามกลางตลาดคริปโตและราคา Bitcoin ที่ซบเซามานับสัปดาห์

และ Musk ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังด้วยการกล่าวกลางรายการว่า “Dogecoin to The Moon” แต่อย่างไรก็ตามราคาของเจ้า DOGE นั้นกลับตอบสนองตรงข้ามกับกระแสในครั้งนี้เนื่องจากมีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงจากระดับ ATH ที่ $0.74 สู่ $0.41 ในเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โดยคาดการณ์กันว่านี่อาจเป็น Sell on Fact ของเหล่าวาฬก็เป็นได้

สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำให้ผู้คนและนักลงทุนทั่วไปต่างมั่นใจว่าเขาคือ Dogefather หรือศาสดาแห่ง Dogecoin นั่นเอง ด้วยความเชื่อมั่นอันแรงกล้าว่าเหรียญ Dogecoin จะมีคุณค่าและราคาในอนาคต เหล่าแฟนคลับจึงเริ่มมีการนำเหรียญดังกล่าวมาใช้ในชีวิตประจำวัน การทำมีม จนกระทั่งไปถึงการทำเพลงให้เพื่อบูชาลัทธิ Dogecoin นี้ https://www.youtube.com/watch?v=s3NWyh8a5t0

Dogecoin เสกมหาเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน

จากการปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาเหรียญ Dogecoin จากต้นปีที่ระดับ $0.005 จนถึงปัจจุบันที่ระดับ $0.54 นั้นทำให้เกิดมหาเศรษฐีมากมายทั่วโลก ตามที่ทาง Siam Blockchain ได้รายงานไปเมื่อวันก่อน คิดเป็นตัวเลขเกือบ 10,000% ในระยะเวลาเพียง 5 เดือน

ซึ่งมหาเศรษฐีที่สามารถทำกำไรได้จากเหรียญนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการซื้อขายเหรียญในตลาดคริปโต และอีกส่วนหนึ่งก็เพิ่งค้นพบว่าตัวเองนั้นถือเหรียญ Dogecoin มาตั้งแต่สมัยเปิดตัวโปรเจกต์ บ้างก็ลืมไว้ใน Wallet เมื่อเปิดเข้าไปดูอีกทีก็กลายเป็นมหาเศรษฐีไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตามเมื่อมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่เกิดขึ้นจากเหรียญ Dogecoin ก็ย่อมมีผู้ที่เสียหายจาก Dogecoin เช่นเดียวกัน โดยความสียหายอาจเกิดขึ้นได้จากการเปิด Short Position ของเหล่านักลงทุนที่มองว่าราคาเหรียญ Dogecoin จะร่วงลงอย่างรุนแรง

สถิติการค้นหาคำว่า Dogecoin บน Google พุ่งแตะ 100 คะแนน

กราฟ Search Trends บน Google เผยให้เห็นว่าสถิติการค้นหาคำว่า Dogecoin ใน 90 วันให้หลังนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในวันที่ 16 เมษายน อัตราการค้นหาพุ่งขึ้นไปแตะที่ 100 คะแนน (ความนิยมสูงสุดสำหรับคำค้นหา) ซึ่งเป็นวันที่หลังจาก Dogecoin พุ่งขึ้นกว่า 500% ในระยะเวลาเพียง 5 วัน

และคะแนนการค้นหาได้ถึงจุดพีคอีกครั้ง ที่ 63 คะแนน ในวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่วันก่อนที่นาย Elon Musk จะไปออกรายการทีวีโชว์ Saturday Night Live สิ่งนี้สามารถบ่งบอกได้ชัดเจนว่าความเคลื่อนไหวของนาย elon Musk นั้นมีอิทธิพลต่อชุมชน Dogecoin เป็นอย่างมาก

สุดท้ายนี้ไม่ว่าอนาคตของเหรียญ Dogecoin จะเป็นอย่างไร นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการลงทุนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียและควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด